อุปกรณ์กล้องไร้สาย มีส่วนประกอบ 2 ส่วนหลักๆ คือ
1. ตัวส่ง (Transmitter) ทำหน้าที่ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ
2. ตัวรับ (Receiver) ทำหน้าที่รับสัญญาณ
รูปแบบของอุปกรณ์กล้องวงจรปิดไร้สาย
TYPE 1 : ตัวส่งสัญญาณติดกับตัวกล้องไปเลย |
|
Camera + Transmitter |
Receiver |
TV |
|
TYPE 2 : ชุดรับส่งสัญญาณ AV ( Wireless AV Sender & Receiver)
|
|
Camera |
Transmitter |
Receiver |
TV |
TYPE 3 : ตัวรับสัญญาณ (Receiver) กับจอมอนิเตอร์ (Receiver Monitor) เป็นตัวเดียวกันเลย |
|
Camera + Transmitter |
Receiver + Monitor |
|
|
Camera |
Transmitter |
Receiver + Monitor |
|
|
APPLICATION ของกล้องไร้สาย
กล้องวงจรปิดไร้สาย เหมาะกับงานประเภทต่างๆดังนี้
1. งานที่ไม่ต้องการเดินสายภาพ เพราะไม่สะดวกในเรื่องการเดินสาย
2. งานที่ต้องการย้ายตำแหน่งกล้องบ่อยเช่น ติดตั้งกล้องในห้องนอนลูก และก็ย้ายไปติดตั้งในห้องทำงานเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ
3. งานประเภทสายสืบเช่น กล้อง Spy ที่ซ่อนอยู่ใน โทรศัพท์มือถือ, เครื่องคิดเลข หรือซองบุหรี่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการใช้กล้องวงจรปิดไร้สาย สามารถเกิดสัญญาณรบกวนได้ทุกเมื่อ ทำให้ภาพที่ได้ไม่คมชัด หรือเป็นเส้นรบกวน
เราจึงจำเป็นที่จะต้องให้ความเข้าใจตรงนี้กับลูกค้าด้วย ว่าสัญญาณคลื่นไร้สาย สามารถให้ภาพที่ชัดเจนได้ในระยะใกล้ที่กำลังส่งสามารถไปถึง
ไม่เหมือนกับกล้องวงจรปิดแบบเดินสายที่สามารถเดินสายสัญญาณได้ไกลเป็นกิโลเมตร (ขึ้นกับชนิดของสายสัญญาณด้วย)
ระยะความไกลในการส่งสัญญาณ
ความไกลในการส่งสัญญาณขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่างคือ ความถี่และกำลังส่ง
1. ความถี่ (Frequency) คลื่นความถี่ของกล้องไร้สาย จำหน่ายมี 2 คลื่นดังนี้
- คลื่นความถี่มาตรฐาน
2.4GHz (2400MHz) : คลื่นเดินทางเป็นเส้นตรงพอสมควร
- คลื่นความถี่พิเศษ
1.2GHz (1200MHz) : คลื่นความถี่ต่ำลงมา มีความสามารถทะลุทะลวงได้ดีกว่า 2.4GHz
เสริมความรู้เรื่องคลื่น
800 KHz : เป็นคลื่นความถี่ของวิทยุ AM
27 MHz : เป็นคลื่นความถี่ของของเล่นเด็กต่างๆ เช่น รถวิทยุบังคับ
90 MHz : เป็นคลื่นความถี่ของวิทยุ FM
100-500 MHz : เป็นคลื่นความถี่ที่ตำรวจใช้
800-900 MHz : เป็นคลื่นความถี่ของโทรศัพท์มือถือ
1000-2000 MHz : เป็นคลื่นความถี่สูง (Microwave)
2. กำลังส่ง (Power) ตัวส่งที่มีกำลังส่งสูง จะไปได้ในระยะไกล
กำลังส่งมีหน่วยเป็น วัตต์ (Watt) เช่น 100mW, 500mW, 600mW, 1W, 3W, 5W
สำหรับระยะความไกลในการส่งสัญญาณ ใน spec มักระบุมาสำหรับพื้นที่เปิดโล่งไร้สัญญาณรบกวน ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เราอาจจะใช้งานในบ้านเรือนที่มีสิ่งกีดขวางหรือสัญญาณรบกวนอื่นๆ ซึ่งมีผลทำให้ระยะการส่งน้อยลงไป โดยเฉพาะกำแพงคอนกรีตจะกีดขวางคลื่นได้ดีมาก (สัญญาณอาจจะ drop ไปครึ่งต่อครึ่งเลยก็ได้) สำหรับบ้านที่เป็นห้องแถวมีบันไดมีทางโปร่ง คลื่นก็จะไปได้ดีกว่าอพาร์ตเมนต์ที่ใช้ลิฟต์ไม่ค่อยมีบันได
ปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่ที่ใช้กับชุดตัวส่งหมดเร็ว
1. กล้องไร้สายที่ตัวกล้องกับชุดส่งติดอยู่ด้วยกัน หากกล้องที่ใช้เป็นชิป CCD ก็จะได้ภาพที่คมชัด และกินไฟมากกว่าชิปCMOS ดังนั้นแบตเตอรี่ก็จะหมดเร็ว
2. ตัวส่งที่มีกำลังส่งสูง ก็จะกินไฟ และทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
ช่องสัญญาณ
ปกติแล้วตัวส่ง (Transmitter) จะสามารถผลักสวิตช์ปรับช่องสัญญาณได้ 4 Channel ซึ่งจะเป็นความถี่ใกล้ๆกัน ซึ่งตัวรับ (Receiver) ก็จะมีช่องให้ผลัก Channel เช่นเดียวกันว่าจะรับภาพช่องสัญญาณไหนมาแสดงทางทีวีปกติจะแนะนำลูกค้าให้ใช้งานอย่างมาก 2 Channel
พร้อมกัน คือ Channel 1 กับ 4 เพื่อเป็นการหลีก ให้ความถี่ห่างกันมากที่สุด สัญญาณจะได้ไม่กวนกัน
|