BANGKOKPHOTO CCTV

CCTV
 

ประเภทกล้องวงจรปิด

       Fujiko CCTV  กล้องวงจรปิดมาตราฐาน
    
       Fujiko CCTV  กล้องวงจรปิดแบบโดม

       Fujiko CCTV  กล้องวงจรปิดขนาดเล็ก

       Fujiko CCTV  กล้องวงจรปิดสปีดโดม PTZ

       Fujiko CCTV  IR Illuminator กล้องอินฟาเรด

       Fujiko CCTV  Non-Pc Base DVR

       Fujiko CCTV  PC Based DVR

       Fujiko CCTV  PC Card DVR

       Fujiko CCTV  Pan/Tile Scanner  CCTV

       Fujiko CCTV  Housing and Bracket

       Fujiko CCTV  CCTV Lens

       Fujiko CCTV  CCTV Monitor

       FUJIKO CCTV  อุปกรณ์ติดตั้งกล้องวงจรปิด

 

 

Media Search Co.,Ltd.

ป้องกัน..แท็กซี่มหาภัยหากเราต้องนั่งคนเดียวทำอย่างไร?  

TEXI CCTV

  • สังเกตป้ายเลขทะเบียนโลหะข้างประตูว่ามีหรือไม่รูปถ่ายในบัตรหน้ารถตรงกับคนขับหรือเปล่า และอย่าลืมจดชื่อ
    – ทะเบียนรถเอาไว้ด้วย
  • โทรศัพท์บอกเพื่อนหรือญาติ โดยพูดดังๆ ว่า...กำลังนั่งในแท็กซี่เลขทะเบียนอะไรและเส้นทางที่กำลังมุ่งหน้าไปไหน..ให้คนขับได้ยิน
  • ต้องนั่งเบาะหลังชิดประตูฝั่งคนขับเสมอ และอย่าบอกว่าไม่รู้เส้นทาง ให้พูดว่า “ไปทางไหนก็ได้ที่รถไม่ติด” ถ้าคนขับไม่รู้เส้นทางให้เปลี่ยนคันใหม่ทันที
  • ถ้าคนขับชวนคุย ให้คุยเฉพาะเส้นทางอย่าคุยเรื่องส่วนตัว เพราะจะนำไปสู่การพูดเรื่องลามกได้
  • อย่าคิดว่าไม่มีอะไร และอย่าเผลอหลับในรถเด็ดขาด
  • สังเกตว่าคนขับปรับกระจกมองหลังบ่อยหรือไม่ หรือปรับทิศทางลมแอร์บ่อยหรือเปล่า? เพราะอาจนำสารบางอย่างมาใส่ในช่องแอร์ ทำให้เราง่วงหรือหลับได้
  • ถ้าบอกให้จอดรถแต่คนขับยังเฉยหรือเพิ่มความเร็ว ให้เปิดกระจกแล้วโบกมือหรือร้องขอความช่วยเหลือทันที...อย่านิ่งเฉย
  • หรือหาสถานที่ที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ในการบันทึกเก็บข้อมูลเอาไว้ก่อน เช่น หน้าธนาคาร หน้าห้าง ที่มีกล้องวงจรปิด

 

ป้องกัน..ถูกชิงทรัพย์ ระหว่างไป – กลับ..ธนาคาร

TEXI CCTV
   
 บ่อยครั้งที่มีการ จีปล้นหรือวิ่งราวทรัพย์ของผู้ถอนเงินหรือกำลังนำเงินไปฝากธนาคาร..ดังนั้นก่อนเดินทางควรระมัดระวังดังต่อไปนี้...

  • การถอนเงินจำนวนมาก ควรขอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมเดินทางไปด้วย และควรนับเงินในที่มิดชิด เช่น ห้องผู้จัดการ หรือติดต่อธนาคารให้อำนวยความสะดวกจัดหาสถานที่ให้ ที่มีกล้องวงจรปิด CCTV
  • ก่อนออกจากบ้านหรือสำนักงาน ควรสังเกตว่ามีคนแปลกหน้าติดตามหรือเฝ้าดูอยู่หรือไม่
  • ถ้าพบรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ติดตามมาอย่างผิดสังเกต หรือสงสัยว่ากำลังถูกติดตาม ให้ขับรถเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    ที่ใกล้ที่สุดทันที อย่าหยุดหรือจอดรถ หรือนำเงินออกจากรถเด็ดขาด
  • การไปถอนเงินหรือนำเงินไปฝากธนาคาร ไม่ควรใช้ถุงกระดาษของธนาคารใส่เงิน เพราะจะเป็นที่สังเกตของมิจฉาชีพ ให้แยกเงินเก็บไว้หลายๆ แห่งและไม่ควรไปเพียงลำพังควรมีผู้ติดตามไปด้วย..

 

ระวัง..”ภัย” จากรถตู้โดยสารอันตรายยามค่ำคืน
       รถตู้ถือเป็นบริการขนส่งมวลชน ที่ได้รับความนิยมสูงไม่แพ้รถแท็กซี่ หรือรถประจำทางทั่วไปทำให้กลายเป็นช่องทางให
้เหล่ามิจฉาชีพ แฝงตัวเข้ามาชิงทรัพย์หรือล่วงเกินทางเพศ โดยเฉพาะผู้หญิง..
       จุดอ่อนของการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะก็คือ ความคับแคบของตัวรถและเบาะนั่ง รวมไปถึงการติดม่านบังแดดรอบคัน ทำให้กลายเป็นจุดอับสายตาทั้งจากผู้ร่วมเดินทางด้วยกันและบุคคลภายนอกจึงง่ายต่อการชิงทรัพย์ และการลวนลามทางเพศ ซึ่งวิธีป้องกันภัยจากการโดยสารรถตู้ มีดังต่อไปนี้...

  • เลือกขึ้นเฉพาะรถตู้ที่จดทะเบียนถูกต้องจาก กรมขนส่งทางบกโดยสังเกตจากป้ายบอกเส้นทาง ตราสัญลักษณ์ “ขสมก.”ติดที่ประตูทั้งด้านซ้ายและขวา แผ่นป้ายทะเบียนสีเหลือง ตัวหนังสือและตัวเลขสีดำ
  • หากเลือกที่นั่งได้ ควรเลือกเบาะที่ใกล้ทางลงมากที่สุด
  • ควรแต่งกายให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพอาศัยความคับแคบของเบาะนั่งฉวยโอกาสลวนลามได้
  • ไม่ควรสวมเครื่องประดับมีค่าให้เป็นทีสะดุดตาแก่ผู้พบเห็น
  • เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถ ควรนำกระเป๋าถือวางไว้บนตักเสมอ อย่างวางไว้ที่พื้นรถ เพราะอาจถูกมิจฉาชีพขโมยทรัพย์สินหรือของมีค่าได้
  • ให้สังเกตท่าทีของผู้ร่วมเดินทาง โดยเฉพาะผู้ที่นั่งเบาะติดกัน หากรู้สึกไม่ปลอดภัยให้รีบลงจากรถทันทีอย่าทนนั่งต่อไป หรือคิดว่า “ไม่เป็นไร”
  • อย่าเผลอหลับในขณะโดยสารรถตู้
  • ในกรณีที่ผู้โดยสารคนอื่นลงจากรถหมดแล้วอย่าเสี่ยงโดยสารต่อไปเพียงลำพัง ให้ลงรถแล้วหาวิธิเดินทางต่อไปด้วยวิธีอื่น
    เช่น รถแท็กซี่ หรือโทรศัพท์บอกให้เพื่อนหรือญาติมารับ..

วิธีป้องกัน..โรคจิต
     ในสภาพสังคมปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยทางจิตเพิ่มมากขึ้น โรคจิตมีหลายประเภทโดยหนึ่งให้โรคจิตที่ผู้หญิงควรระวัคือผู้มีจิตผิด
ปกติทางเพศ เช่น ชอบโชว์อวัยวะเพศลวนลาม หรือโทรศัพท์พูดคุยเรื่องลามก ฯลฯ ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ มีความคาดหวังให้เหยื่อแสดง
ปฏิกิริยาตอบสนองออกมาในรูปแบบที่ตนเองต้องการ โดยเหยื่อมักเป็นผู้หญิง ฉะนั้นการรับมือที่ดีที่สุดคือแสดงพฤติกรรมตรงกันข้าม
กับความคาดหวังของผู้ป่วยเช่นทำเฉยๆ ไม่แสดงอาการตกใจไม่หวีดร้อง เมื่อตั้งสติได้จึงขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง

ประเภทผู้ป่วยโรคจิต ที่ควรระวัง..

วิธีเผชิญหน้า..โทรศัพท์โรคจิต
                  ลักษณะของผู้ป่วย : จะใช้วิธีโทรศัพท์มาหาเหยื่อด้วยคำพูดลามก หยาบโลน เช่น ชักชวนเหยื่อร่วมหลับนอน
หรือพูดคุยเรื่องเพศ โดยมักจะโทรศัพท์มารบกวนเหยื่อบ่อยครั้ง สร้างความหวาดกลัวและรำคาญแก่ผู้เผชิญปัญหาเป็นอย่างมาก
                  ความคาดหวังของผู้ป่วย :  หวังว่าเหยื่อจะหวีดร้อง ตกใจกลัว ด่าทอ หรือใช้วาจารุนแรงกับตน
                 
                  วิธีรับมือ :  
ให้พูดจาอ่อนหวานกลับไป เช่น ตอบว่า “ขอบคุณนะคะที่โทรมาคุยด้วยแต่ตอนนี้ดิฉันไม่ว่าง ขอวางสายก่อนน่ะค่ะ” แล้วถ้าเบอร์นี้ยังโทรมาอีกก็ไม่ต้องรับโทรศัพท์ หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ตอบด้วยประโยคเดิมๆแล้วก็วางสายไปวิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าเราเป็น
เหยื่อที่ไม่น่าสนใจไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เขาต้องการได้และจะไม่โทรศัพท์มารบกวนอีก

วิธีรับมือโรคจิต ประเภท..ชอบโชว์อวัยวะเพศ!
                  ลักษณะของผู้ป่วย :  ส่วนใหญ่ใช้วิธีซุ่มอยู่ในที่ลับตาเพื่อรอจังหวะ เมื่อพบเหยื่อจะโผล่ออกมาโชว์อวัยะเพศให้เหยื่อเห็นทันที
                  ความคาดหวังของผู้ป่วย  :   เหยื่อจะต้องตกใจหวีดร้อง แล้ววิ่งหนี
                  วิธีรับมือ  :   ผู้ป่วยโรคจิตประเภทนี้ เป็นกลุ่มคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง อยากแสดงให้เห็นว่าตนมีความกล้า  สามารถทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้
                  ดังนั้นเมื่อพบผู้ป่วยลักษณะนี้ ให้ตั้งสติแสดงท่าที เฉยชา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเดินผ่านไป แต่ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าเขามีปฏิกริยาอย่างไร จะเข้ามาทำร้ายเราหรือไม่ และควรรีบเดินเข้าหากลุ่มคนเพื่อขอความช่วยเหลือ

ผู้ป่วยโรคจิต ประเภท ชอบลวนลามในที่สาธารณะ
                  ลักษณะของผู้ป่วย  :   ฉวยโอกาสลวนลามเหยื่อในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน แออัด  เช่น ในรถเมล์ รถตู้ ห้างสรรพสินค้าและย่านชุมชน
                  ความคาดหวังของผู้ป่วย  :    เหยื่อจะอับอายและไม่ตอบโต้
                  วิธีรับมือ  :   ตั้งสติ แล้วทำตัวปกติ อย่าอยู่ในมุมอับกับผู้ป่วย ให้รียหนีออกมาแล้วขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง..

 

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า  ถ้าถูกจับ..เป็นตัวประกัน !!!
การถูกจับเป็นตัวประกันเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เราพบเห็นในหลายกรณี เช่น เมายาบ้า เสียสติ  คนร้าย  จนมุมและใช้ตัวประกันเป็น
เครื่องมือต่อรองในการหลบหนี...
9 ข้อแนะนำเมื่อถูกจับเป็นตัวประกัน !?

  • อย่าขัดขืน ให้ชูมือขึ้น อย่าเคลื่อนไหวอย่างกระทัน เพราะจะทำให้คนร้ายระแวงและอาจถูกทำร้ายได้
  • ทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว ไม่อิดออด
  • หากฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธ อย่าต่อสู้ ให้ตั้งสติ อยู่นิ่งๆ ยอมรับสถานการณ์ เพื่อรอการช่วยเหลือ
  • อย่าโต้เถียงหรือพูดก่อนถูกถาม..จะทำให้คนร้ายไม่พอใจ
  • ในช่วง 45 นาทีแรก ฝ่ายตรงข้ามจะมีความเครียดสูง ให้ระวังเป็นพิเศษ
  • อย่าพยายามหลบหนี ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จ !
  • หากสถานการณ์เหมาะสม.. ให้สร้างความคุ้นเคยหรือทำความสนิทสนมกับฝ่ายตรงข้ามบางคน เช่น พูดคุยเรื่องที่มีความ
    สนใจตรงกัน เช่น เรื่องครอบครัว บุตร – หลาน...
  • อย่าใช้วิธีอ้อนวอน ร้องขอ ร้องไห้ ให้รักษาศักดิ์ศรีของตนเอง พยายามให้ได้รับความนับถือและความเห็นใจ
  • หากมีการให้กำลังบุกช่วยตัวประกัน ให้หมอบราบกับพื้นทันที หาที่กำบัง และรีบแสดงตนเมื่อเหตุการณ์สงบแล้วความมีสติและจิตใจที่เข็มแข็งกับท่าทีที่สุภาพ จะช่วยทำให้สถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายดีขึ้น

ป้องกัน ถูกชิงทรัพย์ – ทุบกระจก  ลานจอดรถ..ขณะขับ
การป้องกันการชิงทรัพย์ – ปล้นทรัพย์ – ถูกทำร้ายร่างกาย ในลานจอดรถหรือจอดรถในที่เปลี่ยว มีดังนี้...
                 

  • พึงระลึกเสมอว่า..สถานที่จอดรถถือเป็นสถานที่เปิด ง่ายต่อการเข้ามาแฝงตัวของคนร้าย ดังนั้นการเลือกจุดจอดต้องไม่อับ โล่ง ไม่มืด ไม่บดบังสายตา หรือห่างไกลรถคันอื่นมากนัก เพราะอาจถูกทุบกระจกขโมยของมีค่า จี้ ปล้น และ ถูกทำร้ายได้
  • ระหว่างเดินไปยังที่จอดรถต้องสังเกตว่ามีคนติดตามมาด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นผิดสังเกตให้รีบเดินเข้าหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงอย่าเสี่ยงเดินตรงไปที่รถของเรา
  • ก่อนเปิดรถให้มองโดยรอบ ให้สำรวจดูว่ามีใครหลบหรือแอบซ่อนอยู่ใกล้ๆ หรือไม่ เพราะอาจมีคนร้ายซ่อนตัวอยู่ในรถอีกคันหนึ่ง หรือหลบอยู่บริเวณใกล้เคียงก็ได้
  • ถ้าเกิดเหตุให้ตะโกนดังๆ แล้วกดรีโมทรถยนต์ที่ปุ่มฉุกเฉินเพื่อให้สัญญาณไซเรนดังขึ้น คนร้ายจะตกใจและหนีไปทันที
  • ก่อนขนสัมภาระใส่กระโปรงหลังหรือเบาะหลังควรสังเกตว่ามีคนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือไม่ถ้าไม่แน่ใจอย่าเพิ่งเปิดรถ ให้รอจนกว่าจะมีคนผ่านมาเสียก่อน ขณะขนของขึ้นรถอย่าวางกระเป๋าถือเอาไว้บนหลังคาหรือเบาะหน้า ซึ่งง่ายต่อการถูกคนร้ายฉกฉวยไปได้
  • สุภาพสตรีควรหลีกเลี่ยงการเดินเพียงลำพังในลานจอดรถทีมีขนาดกว้างใหญ่ โดยเฉพาะตามสถานบันเทิง เพราะเสี่ยงต่อการถูกคนร้ายดักจี้ ปล้น ทำร้าย หรือข่มขืนได้ ควรหาที่มีกล้องวงจรปิด CCTV ได้ก็จะดี
  • อย่านำสิ่งของมีค่าวางทิ้งไว้ในรถ แต่ถ้าจำเป็นต้องเก็บซ่อนในที่มิดชิด
  • หลังจากขึ้นรถให้ล็อคประตูทุกครั้ง เพื่อป้องกันคนร้ายฉวยโอกาสเปิดประตูเข้ามาจี้ เพื่อชิงทรัพย์ หรือ ทำร้าย โดยเฉพาะช่วงติดสัญญาณไฟแดง
  • ไม่ควรลงจากรถทันทีที่มีอุบบัติเหตุในที่เปลี่ยวควรตั้งสติและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นอุบัติเหตุจริงๆ หรือเจตนาสร้าสถานการณ์เพื่อชิงทรัพย์หรือทำร้ายโดยเป้าหมายมักเป็นสุภาพสตรีที่ขับรถเพียงลำพัง..

เป้าหมายของคนร้าย..ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่สุภาพสตรี ดังนั้นการเดินในบริเวณลานจอดรถหรือขณะขับรถ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ..

ป้องกันถูกข่มขืน!
การป้องกันตนเองจากการถูกข่มขืนควรปฏิบัติดังนี้

  • ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่รัดกุม เรียบร้อย ตามสมัยนิยมและถูกกาลเทศะ ไม่โป๊หรือเปิดเผยจนเกินไป
  • ไม่ควรเดินในที่เปลี่ยวเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซอยลึก แต่ถ้าจำเป็นจะต้องไปควรมีเพื่อนไปด้วย
  • เมื่อรู้สึกตัวว่ามีคนเดินตามมาข้างหลัง ควรเปลี่ยนเส้นทางเดินหรือเดินเข้าไปยังสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านมีแสงไฟ หากจวนตัวให้กดกริ่งบ้านใครก็ได้ หรือตะโกน ส่งเสียงดังๆ เช่น ไฟไหม้..เพื่อเรียกร้องความสนใจ
  • งดไปงานกลางคืน ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรแจ้งให้ทางบ้านทราบว่าไปที่ไหน ? ไปกับใคร ?  และจะกลับเมื่อใด ?
    และจะกลับเมื่อใด ? แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยควรให้คนที่ไว้ใจได้ไปรอรับกลับ กล้องวงจรปิด
  • ไม่ควรขึ้นรถไปกลับคนแปลกหน้า หรือเมื่อมีคนแปลกหน้าจอดรถชวนคุยด้วยให้หลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด เพราะอาจถูกฉุดขึ้นรถไปได้
  • ไม่ควรรับอาหารหรือขนมจากคนแปลกหน้า
  • ควรฝึกศิลปะการป้องกันตัวเองไว้บ้าง เช่น ยูโด เทควันโด  เป็นต้น
  • ให้พกพาสิ่งของที่สามารถใช้เป็นอาวุธสำหรับป้องกันตัวเองได้เพราะจะช่วยขัดขวางคนร้ายให้ปฏิบัติการยากขึ้นและ
    ทำให้เรามีเวลาหนีได้..

การเอาตัวรอดจากสถานการณ์ถูกข่มขืน
    เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ถูกคนร้ายบังคับข่มขืนควรปฏิบัติดังนี้

  • ตั้งสติ อย่าตกใจกลัว จับตามองคนร้ายอย่าให้คลาดสายตา
  • หากเป็นคนที่เรารู้จัก ให้พยายามพูดเตือนสติให้รับรู้ถึงความรู้สึกของเราว่า ไม่ชอบการกระทำแบบนี้ ขอให้ยุติเสีย
    เพื่อเห็นแก่ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกันมานาน..ถ้าไม่ได้ผลให้หาวิธีถ่วงเวลาเมื่อมีโอกาสหนีให้รีบออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว
  • ในกรณีที่เป็นคนแปลกหน้า พยายามจดจำหน้าของคนร้ายให้ได้อย่าดิ้นรนต่อสู่ เพราะอาจถูกทำร้ายถึงชีวิตได้ ให้ใช้วิธีโอนอ่อนผ่อนตามเพี่อหาจังหวะที่คนร้ายเผลอ แล้วฉวยโอกาสเตะ ถีบ หรือใช้มือบีบริเวณอวัยวะเพศ (จุดอ่อนที่สุดของเพศชาย) และรีบวิ่งหนี โดยขณะที่หนีจะต้องส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังๆ
  • หากยังไม่ถูกประชิดตัว ควรตะโกนดังๆให้คนช่วยหรือทำให้คนร้ายเกิดความอับอาย หรือกลายเห็นเป้าสายตา คนร้ายจะหยุดและหลบหนีไป
  • อย่าปล่อยให้เหตุการ์ณผ่านไปโดยไม่ไปแจ้งความดำเนินคดี เพราะจะทำให้คนร้ายย่ามใจไม่เกรงกลัวกฎหมาย
    และกล้าทำกับคนอื่นอีก
  • พยายามเก็บหลักฐานแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ทันทีเช่น เส้นผม รอยเล็บและอื่นๆ เพราะหลักฐานบางอย่างมีเงื่อนไขทางด้านเวลา
    ในการพิสูจน์ เช่น ดีเอ็นดี เป็นต้น..

ปัญหาการข่มขืนมีปัจจัยแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ที่พักอยู่ในจุดที่เสี่ยงอันตราย อยู่ตามลำพัง และการแต่งกาย นอกจากนี้ยังพบว่าการข่มขืนเกิดจากคนใกล้ชิด ซึ่งการป้องกันจำเป็นต้องอาศัยญาติ พี่ น้อง และบ้านใกล้เรือนเคียงต้องช่วย
กันสอดส่องดูแล..

วิธีเอาตัวรอด จากเหตุ..จลาจล
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา..คนกรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง เคยรุนแรงถึงขึ้นเผาอาคาร บ้านเรือนและทรัพย์สินของราชการ บางชุมชนถูกปิดล้อม ตัดน้ำ – ไฟ – โทรศัพท์.. จุดไหนเสี่ยงภัยมากที่สุด ?

  • สถานที่ชุมนุม และบริเวณใกล้เคียงเพราะอาจถูกใช้สร้างสถานการณ์ได้
  • สถานที่สำคัญของทางราชการ และทางการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงกับประเด็นที่มีการเรียกร้องหรืออาจ
    จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่เป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์ เสมือนเป็นตัวแทนของฝ่ายตรงข้าม
  • สถานที่สำคัญทางธุรกิจ
  • อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ร้านค้า ที่อยู่ บริเวณริมถนน ซึ่งง่ายต่อการสร้างสถานการณ์
  • บริเวณทางแยกสำคัญ
  • บ้านพักของผู้นำระดับประเทศหรือผู้ที่มีชื่อเสียงที่สามารถเชื่อมโยงกับปมขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น

ทั้งหมดนี้เป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเกิดอันตราย ในภาวะที่กำลังเกิดปัญหาความขัดแย้งทาง
การเมือง  ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงดังกล่าว...    แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจากเหตุ..จลาจล!!!

  • ออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว
  • ถ้าเราไม่เกี่ยวข้อง ต้องไม่เข้ามุงดูเหตุการณ์
  • ขณะเกิดเหตุอย่าขัดขวาง โต้แย้ง ด่าทอ เพราะ จะทำให้กลุ่มผู้ก่อจลาจลโกรธแค้นมากขึ้น
  • ให้ระลึกเสมอว่า การก่อจลาจลเป็นเรื่องของการระบายอารมณ์โกรธจากความรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้รับการ ตอบสนองตามข้อเรียกร้อง ไม่ใช่สาเหตุจากเรื่องส่วนตัว โดยความรุนแรงสาเหตุจากเรื่องส่วนตัว โดยความรุนแรงสามารถเพิ่มระดับได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
  • อย่ากระทำการใดๆ ที่อาจทำให้เข้าใจว่าเราเป็นฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาด..

การก่อเหตุจลาจล..เป็นภาวะที่ยากต่อการควบคุมเนื่องจากผู้กระทำเน้นสร้างความรุนแรง โดยมี
เป้าหมายเพื่อสร้างสถานการณ์ ถ้าตกอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์ดังกล่าว ให้ตั้งสติและแยกตัวออกจากกลุ่มโดยเร็ว...

วิธีสังเกต
ระเบิด..ป่วนเมือง !

  • ไม่เคยเห็นวัตถุนั้นมาก่อน..
  • ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ
  • ผนึกกล่องไม่เรียบร้อย

สถานการณ์ปัจจุบันคนกรุงเทพฯ ต้องเรียนและเข้าใจถึง “ภัย” รูปแบบใหม่ที่ไม่ได้มีเฉพาะการจี้
ปล้น ฉก ชิง วิ่งราวทรัพย์หรือการทำร้ายร่างกายกันเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีภัยที่เกิดจากกลุ่มก่อการร้ายที่แฝงเข้ามาในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการวางระเบิดในย่านชุมชน ทั้งที่หวังผลเพียงแค่การสร้างสถานการณ์ และประสงค์ให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชนผู้บริสุทธิ์...
       ดังนั้นการร่วมมือกันสอดส่องดูแลและสังเกตสิ่งผิดปกติรอบตัวเราจึงเป็นหนทางเดียวที่จะป้องกันเหตุการณ์ร้ายแรงและมีส่วน
ร่วมในการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้

อะไรคือ..วัตถุต้องสงสัย – วางระเบิด!

  • เป็นวัตถุที่ไม่มีเจ้าของหรือหาเจ้าของไม่พบ
  • วัตถุมีลักษณะภายนอกผิดปกติ หรือผิดไปจากรูปเดิม เช่น มีรอย งัด ฉีก เปรอะเปื้อน ปิดผนึกไม่เรียบร้อย หรือมีรอยผนึกใหม่ ยับหรือสีเปลี่ยนแปลงไป
  • เป็นวัตถุที่ไม่ควรจะอยู่ตรงนั้น เช่น กระเป๋าเสื้อผ้า ไม่ควรตั้งใกล้ถังขยะ หรือวางเอาไว้โดยไม่มีเจ้าของอยู่ใกล้ๆ..
  • เป็นวัตถุที่เพิ่งปรากฎหรือไม่เคยพบเห็นในสถานที่ตรงนั้นมาก่อน..

CCTV

พบแล้ว...ทำอย่างไรห้ามจับต้อง หยิบยก เคลื่อนย้าย ทำให้สั่นสะเทือน หรือเคลื่อนไหวโดยเด็ดขาด

  • สอบถามหาเจ้าของวัตถุต้องสงสัย หากไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นวัตถุระเบิด
  • จดจำลักษณะทั่วไปของวัตถุต้องสงสัยและบริเวณพื้นที่ที่พบเห็น เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นแก่เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (E.O.D.) ดังนี้
  • ขนาดและรูปร่างของวัตถุต้องสงสัย
  • ลักษณะบ่งบอกอื่น ๆ เช่น เสียงการทำงานหรือมีสายไฟโผล่ออกมา..
  • รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่หรือผู้รับผิดชอบทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป
  • อพยพผู้คนออกจากอาคารสถานที่นั้นโดยด่วนด้วยวิธีนุ่มนวล เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นกลัว
  • กำหนดเขตอันตราย และกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปในเขตอันตราย..

ทุกคน..ช่วยกันสอดส่อง..สามารถป้องกันเหตุร้ายได้

     10  วิธี  เอาตัวรอดอัคคีภัย

  • อาคารสูง – คอนโดฯ
  • สำนักงาน – โรงแรม
  • ร้านค้า – บ้านเรือน
  • อาคารพาณิชย์....

      ถ้าท่านติดอยู่ในอาคารบ้านเรือนที่กำลังเกิดอัคคีภัย ขอให้ปฏิบัติตามหลักการเอาตัวรอด ดังต่อไปนี้..
                 
                  1.  ก่อนเข้าพักอาศัยโดยเฉพาะอาคารสูง ต้องตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ อุปกรณ์ฉีดน้ำอัตโนมัติบนเพดานหรือไม่ และควรศึกษารายละเอียดวิธีการใช้ รวมไปถึงคำแนะนำอื่นๆให้เข้าใจ
                  2.  หาทางออกฉุกเฉินอย่างน้อยสองทาง เลือกจุดที่ใกล้ห้องพักมากที่สุด และควรตรวจสอบดูว่า ทางหนีฉุกเฉินจะต้องไม่ปิดล็อคตาย หรือมีสิ่งกีดขวางแล้วนับจำนวนประตูห้องโดยเริ่มจากห้องของท่านไปจนถึงทางหนีฉุกเฉินทั้ง
สองทางว่ามีกี่ประตู ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ท่านสามารถไปถึงทางหนีฉุกเฉินได้ถึงแม้ว่าไฟฟ้าจะดับหรือปกคลุมไปด้วยควันไฟ
                  3.  เรียนรู้และฝึกเดินในห้องพัก ด้วยการปิดไฟให้มืดแล้วเดินเข้าหาประตูเปิดประตูด้วยมือเปล่าให้ได้ ควรวางกุญแจห้องพักและไปฟฉายไว้ใกล้กับเตียงนอน ในกรณีเกิดเพลิงไหม้จะได้นำกุณแจห้องและไฟฉายไปด้วย ที่สำคัญ อย่าเสียเวลากับการเก็บสิ่งของหรือทรัพย์สินมีค่า...
                  4.  หากท่านพบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ ให้รีบกดทันที
                  5.  ถ้าได้ยินสัญญาณเพลิงไหม้ให้รีบหนีออกจากอาคารทันที อย่าเสียเวลาไปกับการตรวจสอบว่าเพลิงไหม้ที่ใด?
                  6.  กรณีเพลิงไหม้ในห้องพักของท่านให้หนีออกมาแล้วปิดประตูห้องทันที และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยดับเพลิง
                  7.  ถ้าเพลิงไหม้ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องของท่าน ให้รีบหนีออกจากห้อง โดยก่อนเปิดประตูให้ใช้หลังมือแตะบานประตูถ้าประตูยังไม่ร้อน ให้เปิดแล้วหนีไปยังทางหนีไฟฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุด
                  8.  หากแตะประตูแล้วพบว่าประตูร้อน อย่าเปิดเด็ดขาดเพราะไฟกำลังลุกไหม้อยู่ภายนอก สถานการณ์ขณะนั้นในห้องของท่านอาจจะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด ให้รีบโทรศัพท์เรียกหน่วยดับเพลิงแจ้งว่าท่านอยู่ที่ใด บอกชื่อ
อาคาร ชั้น ห้อง แล้วให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุดตามขอบประตู ป้องกันควันไฟเข้ามาภายในห้อง
                  9.  หากต้องเผชิญหน้ากับควันไฟให้คลานต่ำ เพราะออกซิเจนจะอยู่ส่วนล่างสุดของพื้นห้อง แล้วรีบคลานออกไปทาง
หนีไฟฉุกเฉิน อย่าลืมนำกุญแจห้องไปด้วย หากไม่มีทางหนีจะได้กลับเข้าห้องพักได้แล้วออกไปที่ระเบียงหรือหน้าต่างเพื่อ
ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
                  10.  อย่าใช้ลิฟต์ขณะเกิดเพลิงไหมเด็ดขาด ให้ใช้บันไดภายในอาคารหรือบันไดหนีไฟเท่านั้น ที่สำคัญ..
ท่านต้องควบคุมสติให้ได้เพียงเท่านี้ ท่านก็จะสามารถรักษาชีวิตและบุคคลในครอบครัว ให้ปลอดภัยจากการเกิดอัคคีภัยเบื้องต้นได้..

เกร็ดป้องกันภัย ถ้าถูกจี้ชิงทรัพย์..ให้ใช้วิธีโยนของมีค่าออกจากตัว
                  ข้อแนะนำจากหนังสือ “แนะนำนักท่องเที่ยว” เมืองนิวออร์ลีนส์เขียนเอาไว้ว่า ถ้าถูกคนร้ายใช้อาวุธจี้เพื่อชิงทรัพย์ อย่ายื่นทรัพย์สินให้คนร้ายโดยตรง แต่ให้ขว้างหรือโยนไปไกลๆตัว เพื่อให้คนร้ายไปเก็บทรัพย์สินหรือของมีค่านั้น.. เราก็จะมีเวลามากพอที่หนีเอาตัวรอด โดยการวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับจุดที่เราโยนทรัพย์สินออกไป

อย่าจอดรถทันที..ถ้ามีคนแปลกหน้าส่งสัญญาณให้หยุดรถ
            ในระหว่างที่กำลังขับรถหากมีคนแปลกหน้าส่งสัญญาณว่า..รถของเรามีปัญหาอย่าจอดรถทันทีเพราะอาจเป็นกลลวงของคนร้าย
เพื่อจี้ชิงทรัพย์หรือทำร้าย ให้ใช้วิธีขับรถต่อไปจนกว่าจะเห็นว่าปลอดภัยหรือมีคนพลุกพล่านจึงค่อยจอดรถลงมาสำรวจความผิดปกติ

ถ้าอยู่คนเดียว..ควรใช้ลิฟต์แทนการขึ้นลงบันได
                  กรณีที่เราพักอาศัยหรืออยู่ในอาคารเพียงลำพัง ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นลงด้วยบันได แล้วหันมาใช้ลิฟต์แทน เนื่องจากคนร้ายอาจซ่อนตัวอยู่ตามมุมอับได้ ควรติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV

ถ้าคนร้ายยังไม่ได้ใช้อาวุธปืนจี้..ควรวิ่งหนี!
                  บางสถานการณ์คนร้ายมีปืนเป็นอาวุธ แต่ยังไม่ได้นำออกมาจี้เพื่อชิงทรัพย์หรือทำร้าย ขอแนะนำให้ใช้วิธีวิ่งหนีทันที แม้ว่าคนร้ายจะชักอาวุธปืนมายิงก็ตาม เพราะจากสถิติมีโอกาสที่จะยิงโดนเรามีเพียง 4% เท่านั้น (จากสถิติการยิงถูกเป้าหมายเคลื่อนที่) และหากยิงถูกก็มีแนวโน้มที่จะไม่ถูกจุดสำคัญของร่างกาย

อย่าวางใจคน..จะจนใจเอง
                  ผู้หญิงมักใจอ่อน ขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่การถูกทำร้ายร่างกาย ข่มขืน หรือ ฆาตกรรมได้ โดยมีตัวอย่างมาแล้วรายหลาย เช่น ฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งในสหรัฐอเมริกาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มีการศึกษา มักใช้กลวิธีเรียกร้องความสงสารจากเหยื่อเพศหญิง ด้วยการแกล้งทำเป็นคนขาพิการแล้วร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายจึงฉวยโอกาสจี้และลักพาตัวเหยื่อไปทำร้ายทันที..

เทคนิคการจดจำคนร้าย หลักการสังเกต   จดจำ  ตำหนิ...   รูปพรรณ – ยานพาหนะ... ของคนร้าย !
                  การก่ออาชญากรรมและการก่อการร้ายสามารถแบ่งขั้นตอนการปฏิบัติงานออกเป็น 3 ขั้น ได้แก่ ขั้นเตรียมการ ขั้นปฏิบัติการ และขั้นถอนกำลังหรือหลบหนีโดยทุกขั้นตอนผู้กระทำต้องการความรวดเร็วและเป็นความลับ...

จดรายละเอียดได้มากเท่าใด...มีโอกาสจับคนร้ายได้มากเท่านั้น!!!
                  ช่วงเวลาที่คนร้ายลงมือกระทำความผิดและหลบหนีนั้น ประชาชนย่อมมีโอกาสพบเห็นการกระทำนั้นๆ ได้มากกว่าเจ้าหน้าที่ เนื่องจากคนร้ายจะเลือกลงมือปฏิบัติการ เฉพาะช่วงที่ปลอดเจ้าหน้าที่เท่านั้น ยิ่งเป็นการก่อการร้ายด้วยแล้วจะมีทีมงานคอยสังเกตและติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นประชาชนทั่วไปจึงมีโอกาสพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าวมากที่สุด
                  แต่ปัญหาก็คือ ผู้พบเห็นมักจดจำเฉพาะเหตุการณ์ ไม่สามารถลงรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อการจับกุมหรือติด
ตามคนร้ายได้ เช่น รูปพรรณ  จุดสังเกตหรือลักษณะเด่นและวิธีการหลบหนี เป็นต้น
                  ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ประชาชนจึงควรทราบถึงเทคนิคและวิธีการจดจำตำหนิ รูปพรรณของคนร้าย หรือผู้ก่อการร้ายในเบื้องต้น ดังต่อไปนี้..

          หลักการสังเกต จดจำ ตำหนิรูปพรรณบุคคล

  • สังเกตและจดจำ สิ่งที่ใหญ่..เห็นได้ง่าย  ไปสู่สิ่งเล็ก..เห็นยาก
  • สังเกต  จดจำ ลักษณะเด่น  ตำหนิ  ที่เห็นได้ง่ายก่อน
  • อย่าจดจำทุกสิ่งทุกอย่างแต่ให้จดจำบางสิ่งบางอย่าง ที่สามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ
  • เมื่อคนร้ายหลบหนีไปแล้ว อย่าถามผู้อื่นว่า..”เห็นอะไรไหม?”  เพราะมุมมองแต่ละคนไม่เหมือนกัน จะทำให้เกิดความสับสน ให้รีบจดบันทึกตำหนิ รูปพรรณ ที่ท่านเห็นและจดจำได้ ลงในสมุดหรือกระดาษทันที
  • มอบรายละเอียดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามจับกุมทันที

สิ่งที่ควรจดจำก่อน

  • เพศ...ชาย  หญิง   กะเทย   ทอม
  • วัย....เด็ก  วัยรุ่น  ผู้ใหญ่  แก่  (อายุประมาณเท่าใด)

ต้องจดจำสิ่งที่เป็นจุดเด่น  ผิดปกติ  ตำหนิ

  • ตำหนิ....แผลเป็นบนใบหน้า  ไฝ  ปาน..มีลักษณะอย่างไร  และบริเวณไหน
  • แผลเป็น...มีลักษณะอย่างไร  ขนาดเท่าใด  และอยู่ที่ส่วนไหนของร่างกาย
  • ลายสัก...สักรูปอะไร  สีอะไร  อยู่ที่ส่วนไหนของร่างกาย
  • ความพิการ..ตาบอด  เป็นใบ้  แขน –ขา ด้วน  ลีบ ปากเบี้ยว..
  • ท่าทางการเดิน..เดินตัวตรง ตัวเอียง  ขากะเผลก        
  • สำเนียงการพูด...พูดช้า  เร็ว  ติดอ่าง  สำเนียงเป็นคนไทย  จีน  ฝรั่ง  หรือ สำเนียงคนภาคใด
  • การกระทำบ่อยๆ...เช่น สูบบุหรี่จัด  เอามือปิดปากขณะพูด  ติดยาเสพติด  ชอบเอามือล้วงกระเป๋า..
  • การแต่งกาย...ให้จดจำเสื้อและกางเกง เช่น เสื้อแขนสั้น-ยาว , แบบของเสื้อ – กางเกง เช่น กางเกงยีน เสื้อยืด  เสื้อเชิ้ต  เครื่องแบบนักศึกษา สีอะไรและลวดลายแบบไหน รองเท้าที่สวมเป็นชนิดได้สีอะไรและแบบใด
  • มีเครื่องประดับอะไรบ้างที่เห็นได้ชัดเจน เช่น แว่นตา นาฬิกา แหวน สร้อย  กระเป๋าถือ  ฯลฯ

          กรณีมีการพรางใบหน้า
                  ผู้ก่อการร้ายหรือผู้ร้ายอาจใช้วิธีพรางใบหน้า เช่น สวมแว่นตากันแดด สวมหมวกกันน็อค สวมหมวก หรือใช้ผ้าคลุมศีรษะ ให้จดจำอุปกรณ์ที่ใช้พรางว่าเป็นลักษณะใด สีอะไร และมีจุดสังเกตที่ใด

          วิธีจดจำใบหน้าคนร้าย
                  รูปร่าง..สูง, เตี้ย, อ้วนพุงพลุ้ย, ผอมบาง, สันทัด
                  ผิวเนื้อ..ขาว, ขาวเหลือง, ดำ, ดำแดง, ซีด, เปล่งปลั่ง, เหี่ยวย่น..
                  รูปหน้า..รูปไข่, กลม, สี่เหลี่ยม, อูม, หน้ากระดูก..
                  ศีรษะ..โต, เล็ก, กลม, โหนก, หรือหัวล้านอย่างไร
                  ผม..หงอก, หงอกประปราย, หนา ,บาง, ดัด, หยิก, ตัดทรงอะไร
                  ตา..เล็ก, พอง, โต, ลึก, ปรือ, ตาชั้นเดียว – สองชั้น, ตาเข, เหล่, ถั่ว, ตี่, สายตาสั้น, สวมแว่นตาลักษณะใด...
                  คิ้ว..ดก, บาง, เรียว, โค้ง, ตรง, คิ้วต่อ, หางคิ้วชี้, หางคิ้วตก...
                  จมูก..เล็ก, ใหญ่, ยาว, สั้น, ดั้งจมูกราบ, ลึก, หัก, โด่ง, สันจมูกตรง, โค้ง, งอน, เหลี่ยม, คด, ปลายจมูกแหลม,
                  บาน, เชิด, งุ้ม..
                  ปาก...กว้าง, แคบ, ริมฝีปากหนา, บาง, บาน, ยื่น..
                  หู..กาง, แนบ, ใหญ่, เล็ก, ติ่งหูแหลม, ติ่งหูย้อย

            หลักการสังเกต – จดจำยานพาหนะของคนร้าย  เทคนิคการจดจำยานพาหนะที่คนร้ายใช้ มีหลักการพิจารณาเบื้องต้นดังนี้...
                  ตำหนิ  รอยชน  สติ๊กเกอร์  จุดเด่นต่างๆ
                  ประเภท  รถจักรยานยนต์  รถเก๋งส่วนบุคคล  รถยนต์แท็กซี่สาธารณะ  รถบรรทุก  รถปิ๊กอัพ รถสามล้อเครื่อง  รถจิ๊ป  ฯลฯ
                  สีของรถ  เป็นรถสีใด  บริเวณใด  เป็นสีธรรมดา(สีด้าน) หรือสีลูไซท์ (สีเคลือเงา) ฯลฯ
                  ความเก่า – ใหม่ เป็นรถค่อนข้างเก่าหรือใหม่
                  ยี่ห้อ  เป็นรถยี่ห้อใด  รุ่นปี พ.ศ. ใด (ต้องฝึกดูและจดจำยี่ห้อต่างๆ)
                  หมายเลขทะเบียน ดูได้จากแผ่นป้ายทะเบียน ให้จดจำทั้งตัวอักษรและ หมายเลข ถ้าเป็นรถต่างจังหวัดให้
 ​​​​​​​​​​​​​​​​​จดจำชื่อจังหวัดไว้ด้วย
                  แผ่นป้ายทะเบียนรถ  ประเภทต่างๆจะแตกต่างกันไป เช่น
                      -
รถเก๋งส่วนบุคคล  แผ่นป้ายทะเบียนจะเป็นพื้นที่ขาว ตัวเลขและตัวอักษรเป็นสีดำ  มีคำว่า “ขส” ปั๊มนูนที่มุมป้าย                          ติดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
                      - รถแท็กซี่  แผ่นป้ายทะเบียนจะเป็นพื้นสีเหลือง ตัวเลขและตัวอักษรสีดำ มีคำว่า “ขส” ปั๊มนูนที่มุมป้าย ติดทั้ง                          ด้านหน้าและด้านหลัง
                      - รถจักรยานยนต ์แผ่นป้ายทะเบียนจะเป็นพื้นสีขาวตัวเลขตัวอักษรสีดำติดด้านหลังเพียงแผ่นเดียว 
                         การสังเกตแผ่นป้ายทะเบียน ให้พยายามสังเกตด้วยว่าเป็นแผ่นป้ายที่ติดไว้แน่นหนาหรือไม่ ถ้าติด
                         ไม่เรียบร้อยให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นทะเบียนปลอม นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาว่ามีการพรางตัวเลขหรือ                          ตัวอักษรของแผ่นป้ายหรือไม่และด้วยวิธีใดเช่น ใช้สติ๊กเกอร์หรือวัสดุอื่นปิดทับ..
                  ตำหนิ  :  กระจกแตก , สีลอก , มีรอยเจาะที่ตัวถังของรถ, รอยชน – รอยบุบ บริเวณใดและมากน้อยแค่ไหน
                  จุดเด่น  :  ตกแต่งแตกต่างไปจากรถคันอื่น เช่น ติดตั้ง เสาอากาศสูง พ่นสีกันชนแตกต่างจากสีตัวรถ...
                  สติ๊กเกอร์ – ฟิล์ม  :  ติดสติ๊กเกอร์บริเวณใด เป็นรูปหรือเครื่องหมายหรือข้อความใด ติดฟิล์มกรองแสงมากหรือน้อยอย่างไร (ทึบแสงหรือไม่)
                  แผ่นป้าย  :  ที่ติดกับกระจกด้านหน้า ได้แก่ แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษี ป้ายผ่านเข้า – ออก ของสาถานที่ต่างๆ ซึ่งระบุสถานที่กำกับเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีป้ายแสดงสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น สิทธิการจอดรถการประกันภัย ฯลฯ (ควรจดจำเพราะจะเป็นตัวชี้แหล่งที่มาของรถยนตีคันดังกล่าวได้)...

       ทั้งหมดนนี้เป็นเพียงแนวทางในการสังเกต จดจำ ตำหนิและรูปพรรณของบุคคลและยานพาหนะที่ต้องสงสัยเบื้องต้น ซึ่งจำเป็นต้องหมั่นฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ เพียงเท่านี้..ท่านก็มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือทางราชการเพื่อจับกุมหรือติดตาม
ผู้ก่อเหตุร้ายมาลงโทษได้เป็นอย่างดี..                 

คนกรุงเทพฯ..ต้องร่วมมือกัน!
                  ภัยเมืองหลวง..นับวันจะพัฒนารูปแบบและกลไกการปฏิบัติการที่ซับซ้อนและเป็นระบบมากขึ้นตามลำดับ มีทั้งภัยจากคนไทยด้วยกันเอง และภัยที่เกิดจากการกระทำของชาวต่างชาติ ซึ่งสร้างความเสียหายที้งทางเศรษฐกิจและสังคมจนยากที่จะประเมินเป็นมูลค่าได้
                  หลายครอบครัวยังคงหวาดผวา วิตกกังวล หวาดระแวง และ ขาดความมั่นใจ เกรงว่าภัยเหล่านั้นจะหวนกลับมาทำลายชีวิตและทรัพย์สินของตนเองอีกครั้ง เท่ากับเป็นการยกระดับความเครียดของคนกรุงเทพฯ ให้เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ
                  ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทและเตรียมรับมือกับเหตุร้ายที่อาจเกิดให้อนาคต ชาวกรุงเทพมหานครจะต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบและความสูญเสียได้
                  รู้จักปกป้องตนเอง  :  ทุกคนจะต้องรู้จักวิธีปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและบุคคลในครอบครัว ระมัดระวัง ตรวจสอบและหาวิธีป้องกันไม่ให้คนร้ายมีโอกาสเข้ามาทำอันตรายหรือสร้างความเสียหายได้ หรือติดตั้งกล้องวงจรปิด
                  คนในชุมชนจะต้องร่วมมือกัน :  ช่วยกันสอดส่องดูแลและป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุในชุมชนของเราได้อย่างสะดวก ควรจัดระบบป้องกันภัย จัดเวรยามการดับเพลิง ทางหนีไฟภายในชุมชน และควรมีการประชุมปรึกษาหารือกันอย่างสม่ำเสมอ หากล้องวงจรปิด CCTV มาใช้ในชุมชน หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ถ้าทุกคนสามัคคีละร่วมมือกันดูแล โอกาสที่คนร้ายจะเข้ามาปฏิบัติการย่อมกระทำได้ยาก
                  สร้างจิตสำนึกรับผิดชอบ  :  เมื่อพบเห็นเหตุร้ายต้องถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนจะต้องช่วยกันแก้ไขแจ้งเบาะแสและร่วมมือ
กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้จับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ซึ่งวิธีนี้จะกดดันให้คนร้ายหวาดเกรงขาดความมั่นใจ และไม่กล้าลงมือก่อเหตุร้าย
                  จัดทำแผนและฝึกปฏิบัติ  :  ทุกชุมชนควรจัดทำแผนป้องกันและรับมือกับภัยในรูปแบบต่างๆ จัดให้มีการฝึกซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอเมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นคนในชุมชนจะได้รู้วิธีจัดการกับเหตุนั้นๆได้ทันทีซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียให้
กับสมาชิกในครอบครัวและชุมชนได้เป็นอย่างดี
                  การเตรียมความพร้อม ไม่ประมาท และประสานความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะช่วยให้คนกรุงเทพฯ สามารถรับมือและแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าจากภัยต่างๆได้..

 


FUJIKO CCTV


SAMSUNG CCTV

SANYO CCTV


GANZ CCTV
 
หน้าแรกกล้องวงจรปิด เกี่ยวกับกล้องวงจรปิด สินค้ากล้องวงจรปิด วิธีการชำระเงินกล้องวงจรปิด ติดต่อกล้องวงจรปิด