รู้ไว่ใช่ว่ากับสิทธิ์ป้องกันทรัพย์สินเบื้องต้นสำหรับคนไทย
เป็นความรู้ขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคนอยู่แล้วในเรื่องของการป้องกันภัยแก่ทรัพย์สิน ของตน แต่ทราบหรือไม่ว่าการป้องกันทรัพย์สินดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้กรอบที่กฎหมายให้กระทำได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น นำลวดหนามไปล้อมกำแพงบ้านแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า จุดประสงค์เพื่อป้องกันโจรปีนเข้าบ้านซึ่งดูคล้ายจะเป็นการป้องกันตัวเองและทรัพย์สิน แต่กฎหมายบอกว่า กระแสไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อชีวิตคนได้ การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการกระทำด้วยความประมาทอันเป็นเหตุให้คนอื่นอาจไดรับบาดเจ็บหรือตายได้ หากโจรปีนเข้าบ้านแล้วบาดเจ็บเพราะไฟฟ้าของท่าน ท่านก็ต้องรับโทษหนักเบาตามผลของไฟฟ้านั้น ส่วนโจรก็รับโทษอาญาเท่าที่เขากระทำไปด้วย กฎหมายมองแยกส่วนอย่างชัดเจน ใครทำผิดแค่ไหน ก็รับไปแค่นั้น จึงต้องระวังให้มากด้วย อ่านแค่นี้คงสร้างความหนาวๆ ร้อนๆ แก่ผู้ที่ต้องการป้องกันตัวเองตามสิทธิ์ว่า อ้าวแล้วเรามีสิทธิ์ป้องกันภัยแก่ตนเองและทรัพย์สินได้อย่าไรบ้าง วันนี้เรามีมาแนะนำ
-คนที่มีความจำเป็นต้องใส่ของมีค่า เช่น ต้องไปงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ และต้องใช้บริการแท็กซี่หรือรถโดยสารอื่นๆ ควรเก็บเครื่องประดับมีค่าเหล่านั้นให้พ้นสายตาของผู้อื่นแล้วสวมใส่เมื่อไปถึงบริเวณงานเลี้ยง แม้แต่มือถือก็ไม่ควรถือไว้ในมือแล้วเดินออกนอกบ้าน เลี่ยงการโทร.ในที่เปลี่ยว เพราะจะช่วยให้คุณไม่ถูกมองเป็นเหยื่อ ที่สำคัญคุณต้องกล้าจะปกป้องชีวิตตัวเอง มิใช่รอให้ตำรวจมาช่วยท่าน ส่วนใหญ่แล้วตำรวจมักมาช้ากว่าภัยของท่าน หากประมาทเกินไป
-กรณีข้างบ้านเป็นบ้านรกร้างว่างเปล่า การเดินสำรวจดูบริเวณบ้านตัวเองให้บ่อย ย่อมเพิ่มความปลอดภัยให้ตัวเอง ทำให้มีแสงสว่างในจุดนั้น แจ้งให้พนักงานรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านหมั่นเดินตรวจแถวนั้นบ่อยขึ้น อย่าลืมเดินตรวจประตู หน้าต่าง ก่อนขึ้นนอน ปิดให้สนิท จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บ้านคุณได้
-เมื่อเกิดภัยอันตรายขอให้จำไว้เสมอว่า ต้องคิดช่วยตัวเองก่อน อย่าหวังหรือรอให้คนอื่นมาช่วยเหลือเรา (บางทีการรอก็สายเกินไป) ใช้สติเป็นหลัก
-สำหรับ สเปรย์พริกไทย นั้นในไทยยังถือว่า เป็นวัตถุอันตรายที่กฎหมายห้ามประชาชน พกพาไว้ใช้ส่วนตัว (หากคุณซื้อไว้ใช้ส่วนตัวก็ควรเก็บให้มิดชิด) อย่าเอามาโอ้อวด หากเกิดเหตุร้ายก็ใช้มันให้เต็มที่ (แล้วค่อยมาจัดการกับการรับโทษทางกฎหมายที่พกพามันไว้กันต่อไป)
|