วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน รู้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

ช่วงนี้ข่าวการเจองูในห้องน้ำ ในบ้าน นับว่าออกมาให้เห็นกันแทบทุกวันซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนกลัวงูเลยทีเดียว (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เขียนเอง) เพราะเมื่องูเข้าบ้านมาแล้วมักจะไม่ยอมจากไปง่ายๆ แถมยิ่งถ้าเป็นงูที่มีพิษด้วยล่ะก็ ยิ่งเสี่ยงจะเกิดอันตรายกับคนในบ้านได้มากเลยทีเดียว

สาเหตุที่งูเข้าบ้าน

1. มีแหล่งอาหาร หากบ้านหรือสถานที่แห่งนั้น มีแหล่งอาหารงูที่อุดมสมบูรณ์ เช่น มีหนูชุกชุม หรือเลี้ยงสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างนกและลูกไก่ มีสวนที่หญ้ารกหรือต้นไม้อุดมสมบูรณ์ งูก็มักจะมาซ่อนตัว

2. ไม่มีสุนัขหรือแมว บ้านไหนที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง หรือมักไม่ค่อยมีคนอยู่บ้าน งูจะชอบมากเป็นพิเศษ ยิ่งหากเป็นหน้าฝนหรือมีน้ำท่วมขัง งูก็จะมุ่งตรงเข้าบ้านเพื่อซุกตัว

3. มีมุมอับให้วางไข่ หากบ้านไหนมีมุมอับที่ไม่มีคนรบกวน งูมักจะเลือกเป็นพื้นที่อาศัยหรือวางไข่ เช่น ใต้ถุนบ้าน ใต้หลังคา ฝ้าเพดาน หรือในตู้ที่ไม่ค่อยเปิดใช้งาน

วิธีป้องกันงูเข้าบ้าน

1. น้ำมันกลิ่นฉุน กลิ่นแรงๆ ของน้ำมันเครื่อง น้ำมันก๊าด น้ำมันสน หรือน้ำมันรถ จะทำให้งูไม่เข้ามาใกล้ เพราะงูเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบกลิ่นแรงๆ ดังนั้นในช่วงหน้าฝน หรือหากพบเห็นงูมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ บ้าน ก็ลองเอาน้ำมันกลิ่นแรงๆ ไปราดไว้บริเวณรอบๆ บ้าน ก็จะช่วยไล่งูให้หนีไปทางอื่นได้

2. นำกรวด หรือหินก้อนเล็กๆ โรยไว้รอบตัวบ้าน ก็จะทำให้งูเกิดอุปสรรคในการเลื้อย งูก็จะได้เปลี่ยนใจไปที่อื่นในที่สุด

3. เลี้ยงสุนัข สุนัขมักจะไม่นิ่งเฉยหากมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาใกล้ ส่วนงูก็เป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย ดังนั้นหากงูเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ๆ บ้าน สุนัขก็จะส่งเสียงเห่า ทำให้งูตกใจและหนีไปเอง (แต่หากเป็นงูขนาดใหญ่สุนัขก็อาจเกิดอันตรายได้)

4. แผ่นกันงู เป็นอุปกรณ์สำหรับติดไว้ที่ผนัง หรือเสาไฟ เพื่อดักไม่ให้งูเลื้อยผ่าน เพราะแผ่นกันงูทำจากพลาสติกที่มีความลื่นสูง จึงทำให้เป็นอุปสรรคในการเลื้อย ซึ่งอาจทำให้งูตกลงมาหรือหมดแรงไปก่อน

5. ตาข่าย / มุ้งลวด การติดตั้งตาข่ายเอาไว้รอบบริเวณที่คาดว่าจะเป็นทางเดินของงู เพื่อเข้าสู่ตัวบ้าน ก็จะช่วยดักงูไว้ได้ ควรเลือกที่มีตาชิดเพื่อไม่ให้งูลอดผ่านได้ หรือใช้ตาข่ายดักปลาแทนก็ได้ นอกจากนี้มุ้งลวดก็เป็นอีกอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันงูได้ในกรณีที่อยากใช้ในการปิดทางเดิน ไม่ให้งูเลื้อยผ่าน ซึ่งมุ้งลวดอาจมีความแตกต่างตรงที่ไม่สามารถดักให้งูติดอยู่ได้ แต่ก็สามารถป้องกันขวางทางเอาไว้ได้

6. กำมะถัน แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า กำมะถัน ใช้กันงูได้จริงหรือไม่ แต่หลายบ้านก็นิยมใช้กำมะถันผสมน้ำแล้วโรยเอาไว้รอบบ้าน เพื่อป้องกันงูเช่นกัน เนื่องจากเชื่อว่ากลิ่นฉุนของกำมะถันจะทำให้งูเลี่ยงไปทางอื่น โดยในช่วงหน้าฝนต้องโรยบ่อยสักหน่อยเพราะกลิ่นกำมะถันจะจางหายไปได้ง่าย

7. เลี้ยงห่าน จากสถิติพบว่า คนที่เลี้ยงห่านหลายคนยืนยันว่า ตั้งแต่เลี้ยงห่านก็ไม่ได้เห็นงูในบ้านอีกเลย จะมีเห็นก็แค่ตอนที่ห่านกินงู นอกจากนี้มีหลายคนเชื่อว่างูไม่ถูกกับกลิ่นขี้ห่าน

8. ทำความสะอาดบ้าน การกำจัดหนู และสิ่งสกปรกในบ้าน หมั่นตัดหญ้าและดูแลสวนอย่างสม่ำเสมอ งูจะได้ไม่ใช้เป็นที่แฝงตัว อีกทั้งควรหาอะไรมาปิดรูท่อ หรือใส่ตะแกรงท่อระบายน้ำเอาไว้ด้วย งูจะได้ไม่เลื้อยเข้าบ้านทางท่อระบายน้ำ และอย่าลืมดูรองเท้าก่อนใส่ทุกครั้ง เพราะในรองเท้าเป็นตำแหน่งที่งูมักเข้ามาซุกซ่อนอยู่

9. แจ้งขอความช่วยเหลือ โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อมาจับงูออกจากบ้านไป เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด หรือโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือ องค์การสวนสัตว์ โทร. 02 282 7111 ต่อ 3 หรือ 191